รวมสูตร “ข้าวแกง” อาหารไทยที่หลากหลาย อร่อยครบจบในจานเดียว

รวมสูตร “ข้าวแกง” อาหารไทยที่หลากหลาย อร่อยครบจบในจานเดียว


“ข้าวแกง” เป็นอาหารที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินของคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นตามตลาด ร้านอาหาร หรือข้างทาง ข้าวแกงมักถูกจัดวางในถาดอุ่นๆ หลายชนิดให้เราเลือกสรรตามใจชอบ เมนูที่มีตั้งแต่แกง ต้ม ผัด และของทอด ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายได้ภายในมื้อเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลามากในการเตรียมหรือปรุง

นอกจากนี้ ข้าวแกงยังสะท้อนถึงความเป็น “อาหารประจำวัน” ที่เน้นความสะดวกและรวดเร็ว แต่ยังคงเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน รสชาติของข้าวแกงที่เข้มข้นนั้น มาจากการใช้เครื่องแกงที่ตำสดใหม่และการเคี่ยวน้ำแกงจนกลมกล่อม ซึ่งถือเป็นศิลปะการทำอาหารที่สืบทอดกันมายาวนาน คนไทยนิยมทานข้าวแกงทั้งในมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือแม้แต่เป็นอาหารเย็น เพราะสามารถเลือกจานโปรดได้หลากหลายตามความชอบ

ข้าวแกงถือเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของการอยู่ร่วมกันในสังคม เพราะไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด หรือสถานะทางเศรษฐกิจแบบไหน ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติของข้าวแกงที่หลากหลายเหล่านี้ได้ ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ข้าวแกงยังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย ด้วยการผสมผสานของรสชาติต่างๆ เช่น เปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและสนุกสนานในทุกคำที่รับประทาน

วันนี้ เราขอรวบรวมสูตรข้าวแกงยอดนิยมมาให้คุณได้ลองทำเองที่บ้าน โดยแต่ละเมนูได้รับการคัดสรรและทำได้ง่ายในครัวเรือน พร้อมรสชาติที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวานไก่ แกงพะแนง หรือผัดกะเพรา แต่ละสูตรไม่เพียงแค่อร่อย แต่ยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับรสนิยมของแต่ละคน รับรองว่าคุณจะสนุกไปกับการทำอาหารและเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ทำให้ทุกมื้อของคุณมีความสุขยิ่งขึ้น!

สูตรแกงเขียวหวานไก่

แกงเขียวหวานไก่ เป็นเมนูแกงที่ครบรส หอมกลิ่นพริกแกงและกะทิที่เข้มข้น เนื้อไก่นุ่มๆ กับมะเขือเปราะที่ต้มจนเปื่อยอร่อย รสชาติกลมกล่อมลงตัว เหมาะสำหรับทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนก็เข้ากันอย่างดี มาดูวิธีทำกันเลย!


ส่วนผสม:

  • เนื้อไก่หั่นชิ้น (ส่วนสะโพกหรืออก) 300 กรัม
  • กะทิ 400 มิลลิลิตร (แบ่งเป็น 2 ส่วน)
  • พริกแกงเขียวหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือเปราะ 100 กรัม (หั่นเป็นชิ้น)
  • ใบโหระพา 1 กำมือ
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ

วิธีทำ:

  1. เคี่ยวกะทิ: ตั้งกระทะใส่กะทิครึ่งหนึ่งลงไป เคี่ยวจนกะทิแตกมัน (ใช้ไฟกลาง) ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอมและกะทิซึมเข้าเนื้อพริกแกงจนเริ่มข้น
  2. ใส่ไก่: ใส่เนื้อไก่ที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดกับพริกแกง ผัดให้ไก่พอเริ่มสุก
  3. เติมกะทิที่เหลือ: ใส่กะทิส่วนที่เหลือลงไปในกระทะ แล้วรอให้เดือด
  4. ใส่ผัก: ใส่มะเขือเปราะลงไปต้มจนเริ่มนิ่ม จากนั้นใส่ใบมะกรูดฉีกและพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียงตามลงไป
  5. ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสชาติตามชอบ (ควรจะเค็ม หวาน และมันเล็กน้อย)
  6. ใส่ใบโหระพา: สุดท้ายใส่ใบโหระพาลงไปในแกง คนให้เข้ากัน ปิดไฟทันที เพื่อให้กลิ่นหอมของใบโหระพายังคงอยู่

เคล็ดลับ:

  • ถ้าต้องการให้แกงหอมมันมากขึ้น ให้เคี่ยวกะทินานขึ้นจนแตกมันชัดเจน
  • สามารถเพิ่มมะเขือพวงหรือหน่อไม้ได้ตามความชอบ

สูตรพะแนงหมู

พะแนงหมู เป็นเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติหอมหวาน เค็ม มัน ด้วยพริกแกงพะแนงที่เป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอมของใบมะกรูดและกะทิ เนื้อหมูที่นุ่มละลายเข้ากันกับพริกแกงและกะทิได้อย่างลงตัว เป็นหนึ่งในเมนูที่ทำง่ายและถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่


ส่วนผสม:

  • หมูสันใน 300 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
  • พริกแกงพะแนง 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • กะทิ 300 มิลลิลิตร (แบ่งเป็น 2 ส่วน)
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 2-3 ใบ
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 1 เม็ด (สำหรับตกแต่ง)
  • ใบโหระพา (เลือกใส่ได้ตามชอบ)

วิธีทำ:

  1. เคี่ยวกะทิ: ตั้งกระทะใส่กะทิครึ่งหนึ่ง (150 มิลลิลิตร) ใช้ไฟกลาง เคี่ยวจนกะทิเริ่มแตกมัน
  2. ผัดพริกแกง: ใส่พริกแกงพะแนงลงไปผัดในกะทิที่แตกมันแล้ว ผัดจนพริกแกงหอมและเข้ากันดีกับกะทิ
  3. ใส่หมู: ใส่เนื้อหมูลงไปผัดกับพริกแกงพะแนง ผัดจนหมูสุกทั่วถึง
  4. เติมกะทิที่เหลือ: ใส่กะทิส่วนที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันและรอให้เดือด
  5. ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากันจนส่วนผสมละลายและหมูนุ่ม
  6. ใส่ใบมะกรูด: ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม คนเล็กน้อย
  7. ตกแต่งและเสิร์ฟ: โรยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียงและใบโหระพา หากต้องการ ปิดไฟและพร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับ:

  • การเคี่ยวกะทิจนแตกมันจะทำให้แกงพะแนงมีความหอมและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
  • หากต้องการแกงที่ข้นขึ้น สามารถลดปริมาณกะทิลงได้เล็กน้อยตามความชอบ
  • สามารถใช้เนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น เนื้อวัว หรือเนื้อไก่แทนหมูได้เช่นกัน

สูตรแกงส้มชะอมไข่กุ้ง

แกงส้มชะอมไข่กุ้ง เป็นหนึ่งในเมนูแกงไทยที่มีรสชาติเข้มข้น เปรี้ยว เผ็ด หอมหวานลงตัว ชะอมไข่ทอดที่หอมและกรอบนอกนุ่มในเข้ากันได้ดีกับน้ำแกงส้มรสจัดจ้าน และกุ้งสดที่เติมความหวานธรรมชาติลงในจาน เป็นเมนูยอดนิยมที่อร่อยและทำได้ง่าย


ส่วนผสม:

  • ชะอม 1 กำ (เด็ดเอาแต่ยอด)
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กุ้งสด 200 กรัม (ปอกเปลือกและผ่าหลังเอาเส้นดำออก)
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  • พริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ (สามารถใช้พริกแกงสำเร็จหรือโขลกเอง)
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอดไข่)

วิธีทำ:

  1. ทอดชะอมไข่:

    1. ตีไข่ไก่ให้เข้ากันแล้วใส่ชะอมที่เด็ดไว้ลงไป
    2. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนเทส่วนผสมไข่ชะอมลงไป ทอดให้เป็นแผ่นบางทั้งสองด้านจนเหลืองกรอบ จากนั้นนำขึ้นสะเด็ดน้ำมันและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  2. ทำน้ำแกงส้ม:

    1. ต้มน้ำเปล่าในหม้อจนเดือด ใส่พริกแกงส้มลงไป คนให้พริกแกงละลาย
    2. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ (ควรได้รสเปรี้ยวนำ เค็มตาม และหวานเล็กน้อย)
  3. ใส่กุ้ง:

    1. เมื่อน้ำแกงส้มเดือดอีกครั้ง ใส่กุ้งสดลงไปต้มจนกุ้งสุก (กุ้งจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม)
    2. เมื่อกุ้งสุกแล้ว ปิดไฟ
  4. จัดเสิร์ฟ:

    1. ตักน้ำแกงส้มใส่ชาม จากนั้นใส่ชะอมไข่ที่ทอดและหั่นเตรียมไว้ลงไปในชาม
    2. เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย

เคล็ดลับ:

  • การทอดไข่ชะอมให้เหลืองกรอบและหั่นเป็นชิ้นก่อนใส่ในน้ำแกงจะช่วยให้ชะอมคงความอร่อยและไม่เปื่อยมากเกินไป
  • หากชอบรสเปรี้ยวเข้มข้นสามารถเพิ่มน้ำมะขามเปียกได้ตามชอบ หรือปรับรสชาติให้เข้ากับครอบครัว
  • แกงส้มชะอมไข่กุ้งสามารถใส่ผักเพิ่มเติม เช่น มะละกอ หรือถั่วฝักยาว เพื่อเพิ่มความหลากหลายได้



สูตรผัดกะเพราหมูสับ

ผัดกะเพราหมูสับ เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารจานด่วนที่ใครหลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อน หอมกลิ่นกะเพรา และเนื้อหมูสับที่นุ่มอร่อย สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ไข่ดาว หรือไข่เจียว จะช่วยเพิ่มความอร่อยได้อย่างดี


ส่วนผสม:

  • หมูสับ 200 กรัม
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกขี้หนู 10-15 เม็ด (ตามความชอบเผ็ด)
  • ใบกะเพรา 1 กำมือ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า (เล็กน้อยสำหรับผัด)

วิธีทำ:

  1. โขลกกระเทียมและพริก: โขลกกระเทียมและพริกขี้หนูพอหยาบๆ หรือสับหยาบถ้าไม่มีครก พริกกระเทียมนี้จะช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนให้กับผัดกะเพรา
  2. ตั้งกระทะและผัดหมูสับ: ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป รอจนร้อน ใส่พริกและกระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่หมูสับลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุก
  3. ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาล ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากับหมูสับ ถ้ารู้สึกว่าแห้งเกินไปสามารถเติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้ผัดได้ง่ายขึ้น
  4. ใส่ใบกะเพรา: ใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ผัดเร็วๆ แค่พอให้ใบกะเพราสลด จากนั้นปิดไฟทันทีเพื่อให้ใบกะเพรายังคงหอมและสีสด
  5. จัดเสิร์ฟ: ตักผัดกะเพราหมูสับใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาวหรือไข่เจียว เพิ่มความอร่อย

เคล็ดลับ:

  • หากชอบรสเผ็ดมาก สามารถเพิ่มปริมาณพริกขี้หนูหรือใช้พริกแห้งเพิ่มเติมได้
  • ใบกะเพราที่ใช้ควรเป็นใบกะเพราแดง จะมีกลิ่นหอมและรสเผ็ดมากกว่าใบกะเพราขาว
  • อย่าผัดใบกะเพรานานเกินไปเพราะจะทำให้ใบกะเพราเสียความหอม

สูตรไข่พะโล้

ไข่พะโล้ เป็นเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติเข้มข้น หวาน เค็ม และหอมกลิ่นเครื่องเทศจากอบเชยและโป๊ยกั๊ก ไข่ต้มที่นุ่มละมุนเข้ากับหมูสามชั้นที่เคี่ยวจนเปื่อย เป็นเมนูที่อร่อยและทำง่าย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยถูกปากทั้งครอบครัว


ส่วนผสม:

  • ไข่ไก่ต้ม 5 ฟอง (ปอกเปลือก)
  • หมูสามชั้น 300 กรัม (หั่นชิ้นพอดีคำ)
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา (เพื่อเพิ่มสีสัน)
  • กระเทียม 5 กลีบ (ทุบพอแตก)
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา (โขลกหยาบ)
  • รากผักชี 2 ต้น (ทุบ)
  • อบเชย 1 แท่ง
  • โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ทอดไข่ต้ม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนนำไข่ต้มที่ปอกเปลือกไว้ลงไปทอดให้ผิวนอกพอเหลืองกรอบ จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
  2. ผัดน้ำตาลปี๊บ: ตั้งหม้อหรือกระทะก้นลึก ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ผัดด้วยไฟอ่อนจนละลายและเริ่มมีสีน้ำตาลคาราเมล จากนั้นใส่กระเทียม พริกไทย และรากผักชีลงไป ผัดให้หอม
  3. ใส่หมูสามชั้น: ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดกับเครื่องปรุงและน้ำตาลปี๊บจนหมูเริ่มสุกและเคลือบด้วยน้ำตาล
  4. เติมน้ำและเครื่องเทศ: เติมน้ำเปล่าลงไปในหม้อ จากนั้นใส่อบเชยและโป๊ยกั๊ก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซีอิ๊วดำเพื่อเพิ่มสีสัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 30 นาทีจนหมูนุ่ม
  5. ใส่ไข่ต้ม: ใส่ไข่ต้มที่ทอดไว้ลงไป เคี่ยวต่ออีก 10-15 นาที เพื่อให้ไข่ซึมซับรสชาติของน้ำพะโล้ ชิมรสชาติให้ได้รสเค็มหวานตามชอบ
  6. จัดเสิร์ฟ: ตักไข่พะโล้และหมูสามชั้นลงในชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

เคล็ดลับ:

  • การทอดไข่ต้มก่อนนำไปเคี่ยวจะช่วยให้ไข่ไม่แตกและมีผิวกรอบเล็กน้อย เพิ่มเนื้อสัมผัสให้อร่อยมากขึ้น
  • หากชอบรสหวาน สามารถเพิ่มน้ำตาลปี๊บตามชอบ แต่ควรชิมก่อนปรุงเพิ่มเติม
  • เคี่ยวหมูให้นุ่มและหมูซึมซับน้ำพะโล้ดี จะทำให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น

อุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับการแปรรูปอาหาร

  • เครื่องตอกไข่ไก่ เป็นอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่ช่วยในการตอกไข่ไก่อัตโนมัติ เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารหรือร้านอาหารที่ต้องใช้ไข่จำนวนมาก เครื่องนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาและแรงงานในการตอกไข่ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตที่ต้องการใช้ไข่สดเป็นจำนวนมาก เช่น การผลิตขนมปัง เค้ก หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ
  • เครื่องทำซุป แกง ซอส และแยม  เป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการปรุงอาหารที่ต้องการการเคี่ยวและผสมวัตถุดิบให้ละเอียดและเนียนอย่างต่อเนื่อง เครื่องนี้เหมาะสำหรับการทำอาหารในปริมาณมาก เช่น ซุป แกง ซอส หรือแยม ที่ต้องใช้เวลาและความพิถีพิถันในการปรุง เครื่องทำซุปแกงซอสมีความสามารถในการช่วยลดแรงงานและเวลา ทำให้อาหารสุกและเข้ากันได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
  • ตู้นึ่งอาหาร  เป็นอุปกรณ์ครัวที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการนึ่งอาหารหลากหลายชนิด เช่น ผัก เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ข้าว และขนมหวาน ด้วยการใช้ไอน้ำความร้อนสูงทำให้อาหารสุก ตู้นึ่งอาหารได้รับความนิยมในร้านอาหาร โรงแรม และการประกอบอาหารที่บ้าน เนื่องจากช่วยรักษาความสดและคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร



Palm: